บทที่ 9
ผ่านมาแล้ว 8 บท ผมขอสรุป ดังนี้ครับ
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางแห่งชีวิต
เรามีสิทธิเลือกได้ดั่งใจฝัน
พรหมลิขิตเลือกให้เราที่ไหนกัน
เราเท่านั้นที่ลิขิตชีวิตเรา เราเท่านั้นที่ลิขิตชีวิตเรา
สวัสดีครับ ผมชยพล ฐิติศุภสิน ขอแสดงความยินดีและขอบคุณ ทุกท่านที่อดทนอ่านบทความ กลยุทธ์ ที่นักขายประกันชีวิตและนักขายตรงส่วนใหญ่ 99 % ไม่ได้ใช้ เพราะไม่รู้ และนี่เป็นการเปิดประตูบานใหญ่เพื่อปรับทัศนคติและจินตนาการของเส้นทาง อาชีพ นักขายประกันที่เห็นช่อง จองอนาคตเป็นที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ในอนาคต ประกอบกับรายได้ที่ดึงดูดใจกว่าอาชีพอื่น ที่กินขาดกันไปเลย คือ
1. ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ขายมาได้แบ่งกำไรให้ครึ่งหนึ่ง ไม่มีอาชีพ
หรือธุรกิจไหนที่ให้แบบนี้ เสียอย่างเดียวว่าไม่เปิดใจรับ เพราะคิดว่ามันทำยาก ทั้งๆที่เขาก็ทำกันทั้งบ้านทั้งเมือง แถมเรายังเป็นลูกค้าต่างหาก คนในไม่อยากออก คนนอกไม่อยากเข้า
2. ขายครั้งเดียวทำรายได้ ระยะยาว ไปเป็น 10 ปี มีอาชีพอะไรทำได้แบบนี้
จากบทเรียนทำให้เรารู้ว่า การที่เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต หรือ ขายตรง สิ่งที่กำหนดความสำเร็จ คือ ต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่น ทุ่มเท ทำเป็นอาชีพ และสำคัญที่สุดคือ คุณจะหาลูกค้ามาจากไหน คุณจะทำตลาดแบบไหน ไม่ใช่ตัวบริษัท หรือแผนการตลาดที่ดีเลิศ ซึ่งมีคนเข้าใจผิดจำนวนมาก ที่เคยสอนกันมาคือ เริ่มเข้ามาเป็นตัวแทนหรือขายตรง หัวหน้า ต้องให้เราลิสต์รายชื่อ คนรู้จัก วิเคราะห์ว่ามีเงิน แล้วออกแบบหรือวางแผนเสนอขาย ติดตามด้วยการโทรนัด เข้าพบ ใช้ขั้นตอนการขาย การต่อตลาด และบริการประทับใจ ซึ่งผมก็ทำอย่างนี้ ทำไปทำมาข้อหลังๆมันไม่ยาก แต่มันยากที่สุดคือข้อแรก
คุณจะเอาลูกค้ามาจากไหน
ทักษะการสร้างรายชื่อจึงเป็นหัวใจหลักอันดับ 1 ของธุรกิจ
ลูกค้า หรือผู้มุ่งหวัง ที่เรารู้จักหรือแนะนำมันหมดแล้ว หมดไปตั้งแต่เดือนแรกและเขาก็ช่วยซื้อมาแล้ว 3 case หลังจากนั้นก็ชะลอ เพราะหัวหน้าบอกไปลุยกับคนแปลกหน้า อาศัยความกล้าเป็นหลัก น้องใหม่ส่วนใหญ่ จุกคอขวด คือหาทางออกไม่ได้ ไม่กล้าไปต่อสู้กับคนแปลกหน้าหรือคนไม่รู้จัก นี่คือความจริง แค่อารมณ์แวบเดียวว่าล้มเหลวแล้ว ไม่เอาแล้ว รายได้เดือนละแสนเหมือนหัวหน้าก็ไม่เอาแล้ว ทำไม่ได้ หัวหน้าพยายาม motivate เท่าไหร่ แต่จิตใจเขาก็ยังชั่งใจอยู่เหมือนเดิมว่า มันใช่หรือเปล่า หางานใหม่ดีกว่า จึงตายไปจากอาชีพภายใน 3 เดือนแรก ฟันธงและ คอนเฟิร์ม
เพราะอะไรครับ ก็เพราะเขาขาดความมุ่งมั่นทุ่มเท ขาดความขยันอดทน อย่างนั้นหรือครับ น้องใหม่ตอบว่า ไม่ใช่ แล้วเขาขาดอะไร ผมตอบแทนน้องใหม่ได้เลยครับ ว่า เขาไม่มั่นใจว่าเขาจะมีอนาคตหรือไม่ ต่างหาก เพราะออกทำงานทุกวันตามที่หัวหน้าบอก แต่มันไม่ได้งาน และที่สำคัญ มันไม่ได้เงิน เท่านี้มันก็จบ ก็ใช่สิหัวหน้า ผู้จัดการทำมานานลูกค้าก็เยอะ รายได้ก็ดี แต่พวกผมน้องใหม่ที่เข้ามาตอนนี้มันมีค่าใช้จ่ายแล้ว เพราะการเปลี่ยนงานมา ค่าใช้จ่ายเดิมมันยังอยู่เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ ค่าลูกเรียน ค่างวดรถ งวดบ้าน บัตรเครดิตต่างๆ
อะไร ที่จะทำให้น้องใหม่อยู่ได้ ?
และ อะไร ที่จะทำให้น้องใหม่ หรือผู้ที่จะตัดสินใจ
มาร่วมธุรกิจ มองเห็นอนาคต โดยมีความเป็นไปได้
ไม่ใช่ภาพลวงตา ?
1. โค้ช เป็นอย่างไร ใครเป็นโค้ช สำนักงานนั้นมีชื่อเสียง มีแม่ทัพ
ขุนศึกที่มีพลังดึงดูดผู้คนมากน้อยขนาดไหน ถ้าโค้ชไม่ได้ หรือโค้ชไม่เป็น ผมแนะนำให้ใช้ 5 กลยุทธ์ในการ Coach เพราะมันคือสุดยอดของหลักใหญ่ที่ทำซ้ำๆได้เสมอและประสบความสำเร็จเสมอ อย่าให้เขาโชคร้ายเพราะเจอหัวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบและไม่มีวิสัยทัศน์ปล่อยให้หากินตามยถากรรม
2. ระบบรองรับ เมื่อเข้ามาแล้ว ต้องมีระบบ เช่น คุณต้องเข้าประชุมวิชาการ
หรือคลินิกเดือนละ 1 ครั้ง ห้ามขาด ผมเคยไม่รับงานทีมงานคนหนึ่งที่อ้างว่าไปขายประกันในวันประชุม และขายได้มาจริง เป็นเบี้ยประกันหลายหมื่น ซึ่งผมเคยเตือนแล้ว ผมสั่งเลขาห้ามรับลูกค้ารายนี้และให้นำส่งคืนตัวแทน หรือให้เขาเอาไปส่งหน่วยอื่นหรือบริษัทอื่นได้เลย ซึ่งตัวแทนท่านนั้นก็ตายไปจากอาชีพตั้งแต่เดือนแรก เพราะขาดวินัย ถ้าไม่มีระบบผมขอแนะนำว่า น้องใหม่ที่เข้ามา ก่อนออก code ประมาณ 1 เดือนเศษๆ นี้ จะต้องมีใบแต่งตั้งศูนย์ 10 ศูนย์ ต้องมีใบสำรวจตลาดหรือใบรายชื่อจากการเปิด booth หรือแบบสัมภาษณ์ เอาเฉพาะคนที่อยากซื้อประกัน รวมกันไว้อย่างน้อย 100 ใบ เพราะมันคือหัวใจหลักของการเริ่มทำธุรกิจ หัวหน้าต้องพาออกไปทำ ออกไปสร้าง พอออก code เขาก็เริ่มจับรายชื่อขึ้นมาดู พาวิเคราะห์ ออกแบบประกัน โทรนัดหมาย ไปพบ เปิดการขาย ปิดการขาย ต่อรายชื่อ บริการ เหมือนกันทุกประการ แต่การใช้กลยุทธ์ เป็นเพียงเครื่องมือที่จะให้การทำธุรกิจมันง่ายขึ้นและมีประสิทธิผลมากขึ้น เท่านั้นเอง แต่มันก็ยังดีกว่าทำแบบไร้แนวคิด
การใช้กลยุทธ์ เป็นเพียงเครื่องมือที่จะให้การทำธุรกิจ
มันง่ายขึ้นและมีประสิทธิผลมากขึ้น เท่านั้น ไม่ได้วิเศษอะไร
ไปกว่าวิธีเดิม ถ้าวิธีเดิม work ก็ OK
ระหว่างที่ออกสำรวจ หรือสัมภาษณ์ หรือเปิดบูธ นั้นจะเกิดการขายอัตโนมัติ ทำให้เกิดรายได้ขึ้น
เมื่อคุณเข้ามาคุณต้องเรียนหลักสูตร การทำตลาดแบบดึงดูดเพิ่มเติมเป็นการบังคับ หรือเช้าวันจันทร์ Fulltime ทุกคนต้องเข้าเรียนและแชร์ประสบการณ์ถึงเที่ยงห้ามขาด หรือถ้าคุณมาเป็นตัวแทนในหน่วย คุณต้องแสดงให้หัวหน้าเห็นว่า
คุณต้องมีนัดทุกวัน ทุกวัน
อะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณมีนัดทุกวัน
การทำกลยุทธ์ไม่ใช่ว่าต้องทำทุกวันจนไม่ได้ทำอย่างอื่น สัมภาษณ์คุณสามารถใช้บ่ายวันจันทร์ เปิดบูธเดือนละ 1-2ครั้ง หรือกรณีที่ ใบข้อมูลมันพร่องหรือลดลงมากๆเท่านั้น
สำหรับท่านที่เพิ่งเข้ามาเรียนรู้ ก็สามารถเก็บแนวคิดหรือ concept เหล่านี้ไปปรับใช้ และใช้เป็นแนวทางตัดสินใจก่อนทำธุรกิจนี้ ที่คิดว่ายาก แต่จริงๆแล้ว มันง่ายเหลือเกิน กับการทำเงินรายได้ขั้นต่ำเดือนละ 50,000 บาท ภายในระยะเวลา 3 ปี และรายได้นี้มันไม่เหมือนอาชีพอย่างอื่น เพราะมันค่อนข้างมั่นคงต่อเนื่องระยะยาว เพราะรุ่นพี่เขาพิสูจน์มาแล้วและทำกันเป็นเรื่องปกติ คุณจะมีชีวิตที่อิสระ ที่ดีกว่าผม ปัจจุบันรายได้เฉลี่ยขั้นต่ำของผมคือเดือนละ 300,000 บาท ปีละ 5,000,000 บาท บวก ลบ เล็กน้อย ใช้เวลาทำมาทั้งสิ้น 13 ปี โดยไร้กลยุทธ์ เข้ามาเริ่มทำเมื่ออายุ 36 พวกคุณมีโอกาสที่ดีกว่า อายุน้อยกว่า เครื่องมืออุปกรณ์ดีกว่า มี pattern ของความสำเร็จให้ลงมือ copy ทำได้เลย ยิ่งไปได้เร็วกว่า แรงกว่า ผมคาดเดาน้องใหม่ที่เข้ามารายได้เดือนละ 300,000 บาท น่าจะใช้เวลาอย่างมาก 5-7 ปีเท่านั้น เพราะน้องใหม่หลายคนแค่ปีแรกก็ได้เดือนละ 70,000 แล้ว นี่คืออาชีพมหัศจรรย์
และที่จะเพิ่มความรุนแรงของกลยุทธ์ที่ 5 มันคือหัวใจของระบบการทำธุรกิจแผนปัจจุบันโดยแท้จริง ที่คุณต้องทึ่งกับระบบนี้และมันจะทำรายได้ให้กับคุณโดยไร้ขีดจำกัด มันคือ กลยุทธ์ ONLINE หรือการทำธุรกิจบนโลกอินเตอร์เน็ท หรือ INTERNET MARKETING ที่มีหลักสำคัญเป็นตัวควบคุมทั้งหมด คือ
ATTRACTION MARKETING
หรือ การทำตลาดแบบดึงดูดผู้คนเข้ามาร่วมระบบ คุณอาจได้ยินเป็นครั้งแรกแต่ผมได้ยินมา3 ปีและเรียนมาด้วยทุนจำนวนสูง แต่ไม่ใช่ว่าเอา website มา promote ขายแบบประกัน ใครสนใจก็สั่งซื้อเข้ามา หรือโทรเข้ามา มันมีส่วนใช่เหมือนที่ผมเคยทำมา แต่มันไม่ work เลย คุณอาจเข้าใจผิด เพราะมันไม่มีประโยชน์ หรือผลลัพธ์ที่ดีเลย ลูกค้าไม่สั่งซื้อง่ายขนาดนั้นหรอกครับ แต่มันต้องมีระบบที่ดีกว่า ยากกว่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ไม่งั้นเขาไม่เรียนกันแพง ซึ่งนักการตลาดทั่วโลกเขาใช้กันอยู่ แต่เมืองไทยมีคนรู้น้อยมาก เพราะแบบนิสัยคนไทย แต่มันคุ้มมหาศาล คุณจะได้เรียน หลักและการเริ่มต้น
ซึ่งตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ในหน่วยผมจะปรับ SYSTEM MODEL การทำงานใหม่ เป็น ใช้กลยุทธ์ INTERNET MARKETING 50% ส่วนอีก 50% จะเป็นการใช้กลยุทธ์ 4อย่างแรก เพื่อตอบสนองและเตรียมตัวรับ AEC ที่จ่อเข้ามาใกล้เรา ตัวแทนใหม่จะถูกบังคับให้เรียนการสร้าง website ส่วนตัว ซึ่งผมสอนเอง และสำคัญที่สุด ตัวแทนใหม่ที่อยู่หลายจังหวัด ที่ต้องการให้ผม Coaching ได้มีโอกาสหาเงินหาทองที่เป็นก้อนใหญ่ๆ ร่วมกัน โดยการแลกเปลี่ยนหรือขายข้อมูลให้กันและกัน
เหมือนที่ผมสอนกลยุทธ์ให้กับพวกท่าน จนท่านแน่ใจว่า ผมจะสามารถ coaching ระบบให้กับท่านได้จึงตัดสินใจสมัครเป็นตัวแทนกับผม ระบบที่เราทำกับลูกค้าก็เหมือนกันครับ และเวลาที่ใช้ทำงานกับอินเตอร์เน็ทนั้นใช้เฉพาะตอนกลางคืนหลังเลิกงาน
แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเราติดตั้งระบบอัตโนมัติแล้ว ก็ไม่ต้องไปแตะมันอีก มันจะทำหน้าที่ของมัน ในขณะที่เราหลับ วิเศษที่สุด วันๆคอยมาเช็ค Email เหมือนผมตอนนี้คอยเช็คแบบฟอร์มใบสั่งซื้อที่เข้ามา และเตรียมขายมันออกไป ถามว่าถ้าเราไปขายเองแต่ได้เงินน้อยจะคุ้มหรือ ตอบว่าเราก็จัดแพ็คเกจที่มันมีราคา 35,000 ขึ้นไปสิครับ ดังนั้นคุณทำงานประจำอะไรอยู่ก็สามารถเป็น ตัวแทนประกันชีวิตได้
และการประชุม เราก็อาจประชุมอาทิตย์ละครั้งเวลา สองทุ่มครึ่งผ่านห้องประชุม online Webinar ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณ มันจะดีแค่ไหนถ้าสิ้นปีเราไปเที่ยวบ้านคุณ คุณมาเที่ยวบ้านผม ทีนี้คุณคงพอเข้าใจแล้วนะครับ ว่า นี่มันเป็นเครื่องจักรทำเงินชุดใหญ่ชัดๆ ซึ่งท่านจะได้พบกับเครื่องจักรทำเงินชุดนี้ในบทที่ 10 ครับ คุณจะเป็นตัวแทนกลุ่มแรกของประเทศไทยที่จะได้เรียนรู้ระบบงานนี้
แต่ก่อนที่จะพบกับบทที่ 10 ผมขอสำรวจ ความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงงานด้วยนะครับ
แด่ความสำเร็จของคุณ
ขอแสดงความนับถือ
ชยพล ฐิติศุภสิน
081-2092371
42group.ct@yahoo.co.th
สำหรับท่านที่ต้องการเรียนรู้ตั้งแต่บทแรก กด Links ด้านล่างนี้ครับ
http://activeattrac.blogspot.com/
สำหรับท่านที่ต้องการเรียนรู้ตั้งแต่บทแรก กด Links ด้านล่างนี้ครับ
http://activeattrac.blogspot.com/
